
- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 610 คน

- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 368 คน
กรุงเทพฯ – 29 พฤศจิกายน 2566 – บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการด้าน ยานยนต์ไฟฟ้าในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 บูธ B03 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2566 พร้อมเปิดแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าสู่เป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเดินทางและการขนส่งอย่างยั่งยืนอันดับหนึ่งของอาเซียน (No. 1 Sustainable Mobility Platform in ASEAN)
นายสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด กล่าวว่า “EVme มีพันธกิจสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และในฐานะผู้นำด้านบริการยานยนต์ไฟฟ้า เราเดินหน้าสร้าง EV Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วยการขยายขอบเขตบริการใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดให้คนไทยเข้าสู่วงโคจรของการเดินทางที่ยั่งยืนมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ เทคโนโลยี รวมไปถึงการเงิน การจัดแสดงในปีนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอีกขั้น และยังเป็นการเปิดประตู สู่โลกของยานยนต์ไฟฟ้าให้กับกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ ๆ ได้รู้จักมากขึ้น”
ภายในงาน EVme ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการทั้ง 4 กลุ่ม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “EV Verse ทุกเรื่อง EV จบ ครบที่ EVme” ประกอบด้วย 1. บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า เลือก Drivestyle ได้ไม่ซ้ำ ไม่ช้ำค่าดูแล 2. บริการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์ เป็นเจ้าของรถ EV ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว 3. บริการสมาชิก แพคเดียวครบจบเรื่อง EV และ 4. บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าระยะยาว ซึ่งเป็นบริการใหม่ ที่เปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ภายใต้ความร่วมมือกับ กรุงศรี ออโต้ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร โดยนำเสนอบริการเช่าใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า “EVme Subs” ชูจุดเด่นของการให้เช่าใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมั่นใจตลอด 5 ปีแบบ Subscription กับ EV ทุกค่ายรถยนต์ชั้นนำ ในราคาเดียวตลอดสัญญาอย่างไร้กังวล ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมบริการหลังการเช่าสุด พรีเมี่ยม ให้คุณได้ใช้รถได้เต็มที่เหมือนเป็นเจ้าของรถ ขับขี่อย่างอิสระกับการเลือกไดรฟ์สไตล์ที่โดนใจกับการขับรถไม่จำกัดระยะทางในการใช้งานรายวัน พร้อมทั้งยังสามารถเลือกวางเงินประกันสัญญา และค่าเช่าใช้รายเดือน ไม่ต้องกังวลราคาขายต่อ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ตลอดการใช้งาน
EVme ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจอย่าง Hyundai IONIQ 5 First Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังที่การันตีด้วย 3 รางวัลจากเวที World Car Awards 2022 มาจัดแสดง โดยได้รับความไว้วางใจจาก ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ให้นำรถรุ่นดังกล่าวจะเปิดให้เช่าบนแอปพลิเคชัน และการเช่าแบบสัญญาระยะยาว (EVme Subs) บนแพลตฟอร์มของ EVme ที่เดียว ก่อน Hyundai IONIQ 5 รุ่น Standard ที่จะเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วง ไดรมาสที่ 2 ของปี 2567
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญในปีนี้ EVme ยังแตกไลน์ใหม่ รุกตลาด 2 ล้อ โดยมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอิตาลี จากแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Iso (อิโซ่) ภายใต้การบริหารของ นายเฟอร์รุชโช ลัมโบร์กีนี ทายาทตระกูลผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง ซึ่ง EVme ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Iso รุ่น UNO-X เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย จักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Iso รุ่น UNO-X โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ที่มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่กับขุมพลังมอเตอร์ Mid drive motor 11Kw ความเร็วสูงสุด 110 Km/h หมดกังวลเรื่องความร้อน ด้วยระบบ Liquid cooling system ราคาพิเศษเฉพาะในงาน 149,999 บาท จากราคาปกติ 175,000 บาท จำนวน 30 คันเท่านั้นและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองอย่างแบรนด์ Sleek (สลีค) แบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย-สิงคโปร์ ที่ EVme เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย มาจัดแสดงพร้อมจำหน่ายเป็นครั้งแรก 3 รุ่น ได้แก่ Sleek One มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มาพร้อมดีไซน์แห่งโลกอนาคตซึ่งได้รับรางวัลการันตีจาก IF Design Award ประจำปี 2022 ราคา 47,900 บาท Sleek Play เปิดตัวและจัดจำหน่ายเป็นครั้งแรก พร้อมชุดแต่ง EVme Edition ราคา 69,900 บาท และ Sleek Type V-GT Horizon Edition สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาดและสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมโฉมใหม่ ให้ความพรีเมี่ยมที่มากกว่า ราคาเริ่มต้น 95,900 บาท

- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 304 คน
กรุงเทพฯ – 29 พฤศจิกายน 2566 - บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างสีสันช่วงโค้งสุดท้ายของปี ส่งตรง 2 ยนตรกรรมในกลุ่มพรีเมียมอีวีมาจัดแสดงครั้งแรกในไทยและอาเซียนนำโดย MG CYBERSTER สปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง และ IM LS6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Motor Expo 2023 พร้อมทัพยนตรกรรมคุณภาพครบทุกรุ่นทุกรูปแบบด้วยหลากข้อเสนอสุดพิเศษ เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ เอ็มจี ได้ง่ายขึ้น ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A14 อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566
งาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Thailand International Motor Expo 2023 ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญช่วงปลายปีของ เอ็มจี โดยในปีนี้ เอ็มจี ได้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สะท้อนความก้าวล้ำของเทคโนโลยีและงานดีไซน์แห่งโลกอนาคตมาจัดแสดงเป็นยนตรกรรมไฮไลท์ กับครั้งแรกในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียนของ MG CYBERSTER รถสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกซึ่งสร้างสรรค์ให้มีความลงตัวของงานดีไซน์และสมรรถนะอันทรงพลัง รังสรรค์เป็นโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยประตูปีกนก (Scissor Doors) แบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิด ภายในห้องโดยสารให้ลุคสปอร์ตด้วยการใช้สีแดง Wine-red วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมระบบการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายมอบความความรู้สึกแห่งการขับขี่รถสปอร์ตสไตล์ Convertible โดยรุ่นที่ปรากฏตัวภายในงานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย มอเตอร์คู่ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 725 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน3.2 วินาที แบตเตอรี่ความจุ 77 kWh ช่วงล่างด้านหน้าอิสระปีกนกคู่และหลังอิสระมัลติลิงค์ ทั้งนี้ เอ็มจี ได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถจองสิทธิ์เป็นเจ้าของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้อีกครั้ง ภายใต้แคมเปญ MG CYBERSTER Prestige Reservation โดยสามารถทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น* ที่ bit.ly/MGPrestigeReservation (ไม่รับจองที่ศูนย์บริการทุกสาขา) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 ด้วยเงื่อนไข จอง 10,000 บาท สามารถแลกรับส่วนลดได้ 50,000 บาท
และอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างสีสันให้กับบูธของ เอ็มจี ในครั้งนี้ คือ IM LS6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า อีกแบรนด์ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง SAIC Motor กับ Alibaba และ Shanghai Zhangjiang Hi-Tech โดดเด่นด้วยงานออกแบบภายนอกตัวรถภายใต้คอนเซ็ปต์ “Gentle Sculpture” ที่พลิ้วไหว และงานออกแบบภายในที่ล้ำสมัย ผนวกกับฟีเจอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Ai Cabin ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่จาก SAIC Motor ตอกย้ำให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ของบริษัทแม่ของ เอ็มจี โดย IM LS6 นี้ มีขนาดมิติตัวถังที่ 4.9 เมตร ฐานล้อกว้าง 2.950 เมตร สมรรถนะของรถคันนี้มาพร้อมกับ มอเตอร์คู่ 579 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 800 นิวตันเมตร วิ่งในระยะทาง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.48 วินาที
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “งาน Motor Expo 2023 ครั้งนี้ เอ็มจี มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Evolution is NOW” สะท้อนความแข็งแกร่งในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำที่สร้างแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมถึงความตั้งใจในการยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ครอบคลุมในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกสไตล์ของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ในปีนี้ เอ็มจี ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเดินหน้าแผนงานอีวีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (MG EV ECOSYSTEM) ให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการสร้างและเปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวี HASCO-CP BATTERY SHOP ที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้มากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี และเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เดินสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยกำลังการผลิตสูงสุดที่ 100,000 คันต่อปี กับความตั้งใจเพื่อเป็น “ฮับอีวี” สำหรับผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแก่ผู้บริโภคภายในประเทศรวมทั้งการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ประเดิมด้วยการผลิตและจัดจำหน่ายโมเดลแรกด้วย NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบคพลังงานไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ล่าสุดได้รับการการันตีคุณภาพ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2566 (THAILAND EV OF THE YEAR 2023) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ซึ่งได้พิจารณาและตัดสินจากคุณสมบัติต่างๆ ของรถยนต์ อาทิ รูปลักษณ์การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน สมรรถนะการขับขี่ รวมไปจนถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในตลาด เอ็มจี ยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องบริการหลังการขายด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่เป็น 25,000 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บอะไหล่รถยนต์เอ็มจีให้เพียงพอและลดระยะเวลารอคอยอะไหล่ให้สั้นลง ด้วยระบบ TRACK & TRACE ช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถติดตามอะไหล่ วางแผนการซ่อมและส่งมอบรถที่พร้อมใช้งานให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ เอ็มจี ยังได้จัดเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพแบรนด์ เอ็มจี ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกดาวน์เริ่มต้น 8% หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี ในทุกรุ่นทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทั้งยังมีข้อเสนอสุดคุ้มเพิ่มเติม สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2566 และรับรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีอย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ไม่ว่าจะเป็น
กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
- รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ในทุกรุ่น และพิเศษเฉพาะรุ่นNEW MG MAXUS9 รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรีMG Home Charger พร้อมค่าติดตั้งทุกรุ่น
- NEW MG4 ELECTRICราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 769,000 บาท และ NEW MG ZS EV เริ่มต้นที่ 859,000 บาท
- พิเศษสำหรับNEW MG EP Plus และ NEW MG ES ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี
- สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้า ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม สามารถชาร์จไฟที่MG SUPER CHARGE ทั้ง 146 แห่งทั่วประเทศไทย โดยเอ็มจีจ่ายคืนให้เท่ากับที่ยอดเติม 100%
กลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก และรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน
- ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- ราคาพิเศษสำหรับNEW MG ZS เริ่มต้นที่ 629,000 บาท NEW MG VS HEV เริ่มต้นที่ 739,000 บาท และ NEW MG HS รุ่น D สี SCARLET RED ราคาพิเศษ 899,000 บาท
- พิเศษ กับTrade in Campaign เปลี่ยนรถยนต์ยี่ห้อใดก็ได้เป็น NEW MG5 คันใหม่ รับส่วนลดเพิ่ม20,000 บาท* ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้น MG5 10th Anniversary Special Edition
*หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
พบกับยนตรกรรมคุณภาพครบทุกรุ่นทุกรูปแบบของ เอ็มจี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Motor Expo 2023 ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A14 อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566 รวมทั้งที่โชว์รูมและศูนย์บริการคุณภาพของเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ หรือคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ bit.ly/47GZ5L6
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand
###
Hashtag #MGCYBERSTER #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives #IMLS6 #EVPIONEER

- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 476 คน
กรุงเทพฯ 29 พฤศจิกายน 2566 – Changan Automobile ผู้พัฒนายานยนต์ชั้นนำระดับโลก เผยนิยามใหม่แห่งการขับขี่พร้อมผลักดันมาตรฐานวงการยานยนต์ ประกาศเปิดตัว Deepal แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนตั้งตารอกับ 2 รุ่นแรก Deepal L07 และ Deepal S07 เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ที่ศูนย์ประชุมอิมแพค ชาเลนเจอร์
การเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จอันน่าจดจำของ CHANGAN ภายใต้แนวคิด ‘Touch the Future’ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ในการก้าวข้ามขีดจำกัดด้านนวัตกรรม และตอกย้ำถึงบทบาทในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง
นาย เคลาส์ ซิซิโอรา รองประธานบริหาร Changan Automobile กล่าวว่า “ในอนาคต CHANGAN จะยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ที่ส่งเสริม ‘การพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ความแตกต่างในระดับภูมิภาค’ อย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้ความแตกต่างเหล่านั้นในการปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสมและสร้างสรรค์ 'global iconic models' ซึ่ง CHANGAN คาดว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างน้อย 60 รุ่นภายในปี พ.ศ. 2573”
เผยโฉม Deepal L07 และ Deepal S07: สุดยอดยนตรกรรมแห่งยุค
Deepal L07 และ Deepal S07 เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 พร้อมดีไซน์ทันสมัยที่ผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยวเข้ากับการใช้งานได้อย่างลงตัว ด้วยสไตล์การออกแบบระดับนานาชาติ เสริมทัพด้วยความชำนาญของทีมออกแบบระดับนานาชาติที่ประกอบด้วยตัวแทนจาก 25 ประเทศ และ 30 สาขาความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ด้วยความยึดมั่นในบทบาทขององค์กรในการส่งเสริมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในตลาดไทยและสากล Changan Automobile จัดตั้งศูนย์การออกแบบถึง 4 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ประเทศอิตาลี ประเทศญี่ปุ่น และ สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ กระบวนการออกแบบทั้งหมดของ CHANGAN ยึดหลักปรัชญาการดีไซน์แบบ Symbiotic Aesthetics อันประกอบด้วย 3 หลักการสำคัญ ได้แก่ การอยู่ร่วมกันกับเทคโนโลยี มนุษยชาติ และธรรมชาติ
เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จะเป็นที่รู้จักในระดับโลก และเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Changan Automobile เปิดตัว Deepal L07 รถยนต์ฟาสต์แบ็คไฟฟ้าดีกรีรางวัลชนะเลิศการออกแบบผลิตภัณฑ์จากงาน Red Dot Design Award (ชื่อที่ได้รับรางวัล: SL03) มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ในราคา 1,329,000 บาท โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยกับดีไซน์กันชนหน้าแบบ grille-less และระบบไฟอัจฉริยะพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่Deepal L07 สร้างบนแพลตฟอร์ม EPA1 ช่วยให้รถมีสมรรถนะการควบคุมและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม สามารถส่งมอบอัตราเร่งเต็มกำลังจากมอเตอร์เดี่ยวพลังขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูงสุด 190 kW (258 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 66.8 kWh มอบระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (NEDC) วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Comet White) สีเขียว (Nebula Green) สีเทา (Lunar Grey) สีดำ (Eclipse Black) และ สีน้ำเงิน (Stellar Blue)
นอกจากนี้ Changan Automobile ยังเปิดตัว Deepal S07 รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ของความสปอร์ตเข้ากับไลฟ์สไตล์ของครอบครัว มอบความสะดวกสบายขั้นกว่ากับพื้นที่ภายในกว้างขวาง ในราคา 1,399,000 บาท Deepal S07 สร้างบนแพลตฟอร์ม EPA1 ทำให้ตัวรถมาพร้อมกับการทรงตัวและสมรรถนะการควบคุมที่ดีเยี่ยม สามารถส่งมอบอัตราเร่งเต็มกำลังจากมอเตอร์เดี่ยวพลังขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูงสุด 190 kW (258 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 66.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 485 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (NEDC) วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว (Comet White) สีเขียว (Nebula Green) สีเทา (Lunar Grey) สีดำ (Eclipse Black) สีส้ม (Sunset Orange) และ สีเหลือง (Cosmic Yellow)
CHANGAN พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ซื้อรถยนต์ Deepal ทุกท่าน มูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท
รายละเอียดดังนี้:
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อม บริการติดตั้ง
- ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่ และ สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า V2L
- ฟรี ค่าจดทะเบียนรถ
- รับประกันตัวรถ 8 ปีหรือ 160,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ*
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
- ฟรี การบำรุงรักษา 8 ปี หรือ 10 ครั้ง
- ข้อเสนอดอกเบี้ย 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน สำหรับแพ็คเกจมาตรฐาน
*หมายเหตุ โปรดดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ของบริษัท
ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสโลกอนาคตไปกับ Deepal L07 และ Deepal S07 ได้แล้ววันนี้ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ที่บูธ Changan Automobile หมายเลข E02 ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ https://www.changan.co.th/en/
#TouchtheFuture #CHANGAN #CHANGANTHAILAND #EVcar #DeepalS07 #DeepalL07

- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 330 คน
GAC AION เปิดตัว AION Y Plus 490 Premium ที่งาน Thailand International Motor Expo 2023 หั่นราคาสู้ศึกรถอีวีลง 100,000 บาท เหลือ 999,900 บาท ถึงวันที่ 11 ธ.ค.นี้ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย นอกจากนี้ยังได้เผยโฉม Hyper GT, Hyper HT และ Hyper SSR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์
นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ AION ในงาน Motor Expo ซึ่งเรามาพร้อมกับความจริงใจ และเปี่ยมล้นด้วยความคาดหวัง วันนี้เรามีความพร้อมที่
ซึ่งงาน Motor Expo ครั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัว AION Y Plus 490 Premium โฉมใหม่ด้วยราคาสุดพิเศษ 999,900 บาท จากราคา 1,099,900 บาท ถึงวันที่ 11 ธ.ค. 2566 นี้เท่านั้น โดยได้รับการอัปเกรดออปชัน อย่างเต็มรูปแบบทั้งหมด 24 รายการ ภายนอกมาพร้อมกับระบบไฟสูงอั
ในส่วนของเทคโนโลยี AION Y Plus 490 Premium ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์
แนวคิดการออกแบบ AION Y Plus 490 Premium ได้คำนึงถึ
AION Y Plus 490 Premium มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่
ในขณะนี้ AION กำลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่
GAC AION มุ่งมั่นที่จะให้บริการหลั
ปัจจุบัน GAC AION กำลังเร่งดำเนินกลยุทธ์ในระดั
นอกจากนี้ในงาน Motor Expo 2023 AION ยังได้นำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดั
ขุมพลังของ Hyper GT จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว มอบพละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.9 วินาที ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 80 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 710 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) นอกจากนี้ยังได้ระบบช่วยขับขี่
และ Hyper HT เอสยูวีขุมพลังไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอนด์ รุ่นแรกจาก Hyper แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก GAC AION ที่มาพร้อมกับดีไซน์ สมรรถนะ และออปชั่น ที่เหนือกว่า โดยรถคันนี้ถูกสร้างขึ้
Hyper HT ได้สร้างมาตรฐานใหม่ ในตลาดเอสยูวีไฟฟ้า 100% โดยได้ชูจุดเด่น 4 ประการได้แก่ ดีไซน์และการออกแบบที่หรูหรา, วัสดุและการตกแต่งระดับพรีเมียม
ปิดท้ายด้วย Hyper SSR ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นรถซูเปอร์คาร์สมรรถนะสู
Hyper SSR มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่
ขุมพลังของ Hyper SSR จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้พละกำลังสูงสุดมากถึง 1,225 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผั
ตัวรถ Hyper SSR ถูกคิดค้น วิจัย และพัฒนา โดยทีมวิศวกรของ Hyper ทั้งหมด และถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี
Contact info:
Media:
Business:
To learn more about GAC AION:
Official website: https://www.aionauto.com/th
Facebook:https://www.facebook.
Twitter: https://twitter.com/AION_TH
YouTube:https://www.youtube.
- รายละเอียด
- หมวด: ยานยนต์
- Talktoday ทอล์กทูเดย์ By
- อ่าน : 433 คน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เชิญชวนลูกค้าชาวไทยสัมผัสมิติใหม่ของการออกแบบบูธจัดแสดงรถยนต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) สะท้อนถึงความเท่าเทียมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ด้วยการออกแบบบูธที่ไร้ทางต่างระดับแบบ Universal Design ให้ทุกคนเข้าถึงบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมรับประสบการณ์ที่เหนือระดับผ่านทัพยนตรกรรมหลากหลายรุ่น นำโดย 4 รุ่นล่าสุดอย่าง GLC 220 d 4MATIC Avantgarde, EQE 350 4MATIC SUV Electric Art, GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic, C 220 d AMG Line และยนตรกรรมอีกกว่า 15 รุ่น ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าคนพิเศษทุกคนที่เข้าชมบูธภายในงาน หรือไปที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2566
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เราให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคนเป็นอันดับแรกเสมอ นอกจากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นคือการเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของทุกคน ในงาน Motor Expo ปีนี้ เราจึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” ที่ย้ำจุดยืนในเรื่องความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equity) และการเคารพถึงความแตกต่าง (Inclusion) และเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของบูธให้ดีกว่าเดิม โดยเราตัดสินใจนำทางต่างระดับของบูธออกไปและทำให้ดีไซน์ของบูธตรงตามหลักการออกแบบอย่างเท่าเทียม หรือ Universal Design ซึ่งจะรองรับการเข้าถึงของผู้ที่ใช้วีลแชร์ ทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กและใช้รถเข็นเด็ก ทำให้ทุกคนเข้ามาที่บูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างสะดวกสบายและรับประสบการณ์แบบเดียวกัน โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ”
จากคอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” ที่สะท้อนผ่านดีไซน์การออกแบบบูธตามหลัก Universal Design อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือการนำเสนอโมเดลรถรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่หลากหลายและมีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีทั้งรถเอสยูวีรุ่นขายดีตลอดกาลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง The new GLC ที่เสริมไลน์อัพด้วยเครื่องยนต์ดีเซลพร้อมขุมพลังแบบ Mild Hybrid ในรุ่น “GLC 220 d 4MATIC Avantgarde”, “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นเริ่มต้นจากตระกูล EQE SUV ที่ขับขี่ได้ไกลถึง 558 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง, “The new GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic” ที่สุดแห่งยนตกรรรมเอสยูวีสุดหรูที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลังและความสะดวกสบายได้อย่างไร้ที่ติ และ “C 220 d AMG Line” รุ่นย่อยล่าสุดจาก The new C-Class อีกหนึ่งไลน์อัพรถซีดานยอดนิยมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน
ข้อมูลเบื้องต้น - GLC 220 d 4MATIC Avantgarde (ราคาจำหน่าย 3,720,000 บาท)
อีกหนึ่งทางเลือกเครื่องยนต์จาก The new GLC “GLC 220 d 4MATIC Avantgarde” ยนตรกรรมที่พร้อมก้าวสู่โลกแห่งอนาคตอย่างเต็มรูปแบบด้วยเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM654M แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1,993 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศ turbochargers ที่ระบายความร้อนด้วยระบบ Water-cooled turbocharger ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้านี้จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะเบรก สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์แบบเงียบ ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและลดการสั่นในการสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะใช้งาน Eco Start/Stop และยังช่วยเพิ่มแรงบิดและรอบเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำ โดยมอบพละกำลังได้สูงถึง 17 กิโลวัตต์ ทำให้รถยนต์คันนี้มีกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 197 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ยังทรงพลัง และสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 6.5%
ข้อมูลเบื้องต้น - EQE 350 4MATIC SUV Electric Art (ราคาจำหน่าย 4,850,000 บาท)
EQE SUV รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เปิดตัวในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นเริ่มต้น “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” รุ่นกลาง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line” และรุ่นท็อป “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motors) ติดตั้งบริเวณเพลาขับหน้าและหลัง มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 765 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูง 396V แบบ Lithium-ionที่มีความจุมากถึง 89 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลกว่า 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที
ข้อมูลเบื้องต้น - GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic (ราคาจำหน่าย 5,590,000 บาท)
GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ตัวแทนด้านขุมพลังแห่งสมรรถนะและความสะดวกสบายอันเหนือระดับ สะท้อนตัวตนความเป็นรถยนต์สไตล์ออฟโรดดีไซน์เฉียบคมได้อย่างลงตัว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล OM654M แบบ 4 สูบเรียงขนาด 1,993 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศแบบ turbochargers ที่ระบายความร้อนด้วยระบบ Water-cooled turbocharger ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system ให้พละกำลังสูงถึง 15 กิโลวัตต์ ทำให้ The new GLE มีกำลังแรงม้ารวมสูงสุดถึง 269 แรงม้าที่ 4,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,200 รอบต่อนาที สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.9 วินาที ผสานการทำงานกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ยังทรงพลังในทุกโมเมนต์
ข้อมูลเบื้องต้น - C 220 d AMG Line (ราคาจำหน่าย 2,880,000 บาท)
C 220 d AMG Line ถือเป็นรถยนต์ซีดานดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM654M แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1,993 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศแบบ turbochargers ที่ระบายความร้อนด้วยระบบ Water-cooled turbocharger ผสานการทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system ให้พละกำลังสูงถึง 17 กิโลวัตต์ ทำให้รถยนต์คันนี้มีกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบต่อนาที สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 7.3 วินาที พร้อมจับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลอย่างเหนือระดับ และสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 6.5% พร้อมนำเสนออีกขั้นของเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเข้ากับยุคแห่งดิจิทัล
นอกเหนือจากการนำเสนอยนตรกรรม 4 รุ่นล่าสุดแล้ว ภายในบูธยังมีการจัดแสดงกล้อง Mercedes-Benz Drive Recorder 360 องศา อุปกรณ์ตกแต่งใหม่ล่าสุด (MB Accessories) ที่มีดีไซน์ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ มาให้ทุกคนได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โดยกล้องตัวนี้สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวรถในระหว่างการเดินทางและขณะจอดรถ โดยประกอบไปด้วยกล้อง 3 ตัว ได้แก่ กล้องด้านหน้า QHD, Surround sQHD และกล้องด้านหลัง FHD ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถจับภาพวิดีโอได้รอบทิศทาง ทั้งภายนอกและภายในรถยนต์ของคุณ มาพร้อมการรับประกันความคุ้มครอง 2 ปี ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเดินทางได้อย่างปลอดภัยเหนือระดับ โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ในราคาแนะนำ 19,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่รวมค่าแรงในการติดตั้ง) ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
พบกับสุดยอดยนตรกรรมทุกรุ่นจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 1 - 11 ธันวาคม 2566 นี้ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษเดียวกับ Motor Expo ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ศูนย์บริการ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook: Mercedes-Benz Thailand IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth
เนื้อหาอื่นๆ …
- อาร์ทีบีฯ เปิดตัว SteelSeries คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Diablo IV Limited Edition และไมโครโฟน Alias พร้อมจัดหนักจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นและของสมมนาคุณสุดพิเศษ ในงาน Thailand Game Show 2023 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 22 ตุลาคม ศกนี้
- อาร์ทีบีฯ เปิดตัว SteelSeries คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Diablo IV Limited Edition และไมโครโฟน Alias พร้อมจัดหนักจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นและของสมมนาคุณสุดพิเศษ ในงาน Thailand Game Show 2023 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 22 ตุลาคม ศกนี้ (2)
- บมจ.บูติคนิวซิตี้ จับมือพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน จัดงาน “A’MAZE Green Society Showcase”
- Mercedes-Benz ผุดแคมเปญสุดครีเอท จัด Pop-up Motor Show ที่เสา A19 บนลานจอดรถห้างดัง ชูหมายเลขตำแหน่งใหม่ของบูธ ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้